วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ปืน BB GUN รุ่นต่างๆ

M4A1 คือปืนรุ่นเล็กของ M16A2 ถูกดัดเเปลงให้เหมาะสมกับภารกิจรบพิเศษ เเละกำลังถูกใช้อยู่ในหน่วยรบพิเศษของกองทัพสหรัฐอเมริกา จุดเด่นที่ให้เเก่ M4A1 คือมันสามารถเเสดงศักยภาพทางการรบได้ดีทั้งในเวลากลางวันเเละกลางคืน อีกทั้งยังสามารถใส่อุปกรณ์เสริมได้ทุกชนิดเเม้ว่าจะมีขนาดเล็กก็ตาม อุปกรณ์เสริมของรุ่นนี้ อาทิเช่น ที่จับด้านหน้า , อินฟาเรด เลเซอร์, ลำกล้อง 9 นิ้วของปืนยิงลูกระเบิดที่นำกล้องเล็งเเละที่หิ้วปืนมาประกอบเข้าด้วยกัน, visible light , back up iron slight เเละ visible laser

Airsoft Gun M4A1 ของ Tokyo Marui ซึ่งได้ว่าจ้างให้likes of Killer Studio และ Systema สร้างขึ้น โดยปืนรุ่นนี้ ได้รับความนิยมมาจาก หน่วยปฏิบัติการพิเศษของอเมริกา ซึ่งสามารถเข้าถึงพื้นที่แคบๆในอาคารได้ ในส่วนของ BB ตัวนี้ความนิ่งอยู่ในระดับที่ดีเนื่องจาก พลังที่ได้จากมอร์เตอร์ Eg 1000 และลำกล้องที่ยาวขึ้นศูนย์เล็งที่เห็นได้ชัดเจนทำให้คนที่ชอบในตัวของ M16 A2 ต้องชอบ M4A1 อย่างแน่นอน


G36-C 
คือปืนรุ่นเล็กของ G36 พัฒนาโดยบริษัท H&K ในช่วงต้นยุค 90 มีลักษณะคล้ายกับ HK-50 มาก ผลิตออกมาเพื่อทดเเทน MP-5 ที่มีพลังการทำลายล้าง เเละพลังการทะลุต่อฝ่ายตรงข้ามในขณะที่สวมชุดเกราะน้อยมาก

HK416ใน จำนวนปืนอัดลมที่นัก เล่น และนักสะสม Collection จะต้องมีหรือใฝ่ฝันว่าจะต้องมี คือ M4/M4A1 อาวุธประจำกายของฝั่งค่ายโลกเสรี ที่ใช้กันในหน่วยทหาร ตำรวจ HK416 เดิมรู้จักกันในนามของ HK M4 ให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่นการใช้งานของ หน่วยพิเศษต่างๆ ที่ต้องการอาวุธที่ดีที่สุด และเชื่อใจได้เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ของความเป็นความตาย HK ได้พัฒนาระบบกลไกภาย ในและชิ้นส่วนหลายส่วนของปืนสไตล์ M16/M4 ที่ได้รับความนิยมให้สามารถใช้งานได้เสถียรขึ้น ภายใต้การใช้งานในสภาพสภาวะต่างๆ ด้วยกระสุนทุกชนิด และความยาวลำกล้องที่หลากหลาย ทั้งขณะติดอุปกรณ์ลดเสียง หรือไม่ได้ติดตั้งก็ตามซึ่งนั่นก็คือ HK416 นั่นเอง

ประเภทของ ปืน บีบีกัน


ประเภทของ Airsoft Gun 
Airsoft Gun แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ 
1. ปืนอัดลมระบบแอร์ค็อกกิ้ง (Air Cocking Gun) 
2. ปืนอัดลมระบบแก๊ส (Gas Gun) 
3. ปืนอัดลมระบบไฟฟ้า (Automatic Electric Gun) 

ปืนอัดลมระบบแอร์ค็อกกิ้ง
ปืน อัดลมเบาระบบแอร์ค็อกกิ้งหรือสปริงค็อกกิ้ง เป็นปืนที่มีกลไกไม่ซับซ้อนมากนัก มีน้ำหนักที่เบาใช้งานง่าย ทนทานและราคาไม่แพงราคาเริ่มต้นที่ 200-300 เท่านั้น และสามารถซื้อหามาเล่นได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเล่น ระบบกลไกการส่งกระสุนในปืนชนิดนี้จะใช้แรงดีดจากสปริงในการยิงกระสุน ?Cocking? เป็นคำที่ใช้เรียกปฏิกิริยาการหดตัวของสปริงลูกสูบ ปืนประเภทนี้จึงถูกเรียกว่าเป็นปืนแอร์ค็อกกิ้ง ปืนที่ใช้ระบบแอร์ค็อกกิ้ง นอกจากจะมีในแบบปืนสั้นแล้ว ยังมีในรูปแบบปืนยาวด้วย ซึ่งปืนระบบแอร์ค็อกกิ้งในแบบปืนยาว ส่วนใหญ่จะเป็นปืนในแบบ Sniper อย่างเช่น ปืนอัดลมเบา Sniper ตระกูล APS II ที่ผลิตโดยบริษัท Maruzen หรือตระกูล VSR-10 ที่ผลิตโดยบริษัท Tokyo Marui ก็เรียกว่าเป็นปืนแบบแอร์ค็อกกิ้งด้วยเช่นกัน 

ปืนอัดลมระบบแก๊ส
ปืน อัดลมระบบแก๊สแบ่งออกเป็นอีก 2 ประเภทได้แก่ ปืนแบบไม่โบลว์แบ็ค (Non BlowBack) และแบบโบลว์แบ็ค (BlowBack) คำว่า ?โบลว์แบ็ค? นั้นเป็นคำที่เรียกปฏิกิริยาการสะท้อนถอยกลับของสไลด์ปืน ที่เลียนแบบของจริงทุกประการ พลังงานที่ใช้ส่งกระสุน จะใช้แรงดันที่เกิดจากการขยายตัวของแก๊ส 

ปืนระบบไม่โบลว์แบ็ค มีข้อดีตรงที่ใช้แก๊สไม่เปลือง และให้ความแรงสม่ำเสมอในการยิง แต่จะมีข้อด่อยตรงที่ หากเป็นปืนอัดลมในสไตล์ปืนพก จะไม่มีการสไลด์ของปืนที่เหมือนกับปืนของจริง ระบบโบลว์แบ็คนั้น เป็นปืนที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นมากที่สุดเพราะความเหมือนจริงของมันนั่น เอง อีกทั้งยังได้อารมณ์ของการยิง และระบบการทำงานของปืนยังเลียนแบบมาจากปืนของจริงอีกด้วย ข้อเสียของปืนอัดลมแบบใช้แก๊สอยู่ที่ เมื่อแรงดันแก๊สอ่อนลงหรือใช้งานในอุณหภูมิที่เย็นจัด จะส่งผลถึงความแรงและความแม่นยำก็จะลดลงตามไปด้วยเช่นกัน
แก๊สที่ใช้ใน ปืนอัดลมระบบแก๊ส นั้นก็คือน้ำยาทำความเย็นทั่ว ๆ ไป จะเป็นแก๊สในกลุ่ม HFC134a หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า R134a แก๊สที่มีขายทั่วไปในท้องตลาดมีหลายชนิดและยี่ห้อ เช่น Gun Power เป็นแก๊สที่ใช้ได้ทั้งอุปกรณ์ที่เป็นทั้งเหล็ก และพลาสติก และยิงได้แม้อุณหภูมิที่เย็นจัด


ปืนอัดลมระบบไฟฟ้า
ปืนอัดลม ประเภทนี้ยังมีชื่อเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า ปืน AEG. คำว่า AEG. ย่อมาจากคำเต็มว่า Automatic Electric Gun เป็นปืนอัดลมที่ใช้พลังงานการส่งลูก จากไฟฟ้าในก้อนแบตเตอรี่ ซึงเป็นตัวทำให้มอเตอร์ภายในทำงาน มอเตอร์ที่หมุนจะทำให้สปริงลูกสูบหดตัวและทำให้กระสุน ถูกยิงออกไปด้วยแรงดันของลูกสูบ ข้อดีของปืนอัดลมระบบไฟฟ้าชนิดนี้ จะสามารถปรับแต่งสปริงหรืออุปกรณ์กลไกภายในเพื่อทำให้ปืนมีความแรงเพิ่มขึ้น จากเดิมได้ และยังให้ความแรงและความแม่นยำอย่างสม่ำเสมอ จนกว่าแบตเตอรี่จะหมดไฟ เมื่อหมดไฟก็สามารถชาร์ตได้ด้วยเวลาอันสั้น ปืนระบบไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะปืนปืนยาวจำพวก Assault Rifle มากที่สุด เช่น ปืนในตระกูล HK ต่างๆ M4A1 หรือแม้กระทั่งปืนยาวประเภท Sniper M14 นอกจากปืนอัดลมไฟฟ้าในรูปแบบปืนยาวแล้ว ยังมีปืนไฟฟ้าที่เป็นปืนสั้นอีดด้วยแต่ไม่เป็นที่นิยม เพราะขนาดของโครงสร้างที่จำกัด ทำให้ระบบกลไกภายในต้องย่อขนาดลงตามไปด้วย และความแรงในการยิงจะค่อนข้างเบากว่าปืนอัดแก๊ส


ประวัติของปืน บีบีกัน

ใน ปี พ.ศ. 2513 ประชาชนในประเทศญี่ปุ่นครอบครองอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมาย อาวุธปืนเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างกว้างขวางสำหรับประชาชน เพราะความสนใจอย่างกว้างขวาง ผู้ผลิตหลายรายจึงเริ่มผลิตปืนสปริง เป็นที่น่าสนใจต่อผู้คนที่สนใจอาวุธปืนในปี พ.ศ. 2513 ปืนดังกล่าวมีลำกล้องหลายขนาด เพื่อใช้ยิงลูกกระสุนพลาสติกและกระสุนยาง โดยกระสุนมีลักษณะเป็นวงกลมหลายขนาด แต่โดยที่สุด กระสุนพลาสติกเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 6 มม. และ 8 มม. ถูกบรรจุเข้าเป็นกระสุนมาตรฐาน ต่อมาปืนที่ใช้พลังงานจากสปริง ถูกบรรจุด้วยพลังงานจากแก๊ส เป็นระบบที่มีความหลากหลายมาก ของเล่นเหล่านี้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังอเมริกาเหนือในกลางปี พ.ศ. 2533 ในเวลาเดียวกัน ญี่ปุ่นตกต่ำทางเศรษฐกิจ แต่สามารถเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิดจาก AEG (Automatic Electric Gun) หรือปืนไฟฟ้าอัตโนมัติ ญี่ปุ่นส่งเข้าตีตลาด ทำให้ผู้ผลิตเก่าหลายรายพ่ายแพ้ทางการตลาด เศษของที่ไม่ใช้แล้ว Tokyo Marui (ต่อไปนี้จะเรียกว่ามารูอิ) นำมาผลิตคิดค้นขึ้นเป็น AEG และเป็นผู้ผลิตปืนยาวไฟฟ้าอัตโนมัติเป็นรายแรก มารูอิได้คิดค้นระบบ Hop-Up มีความสามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำและวิถีกระสุนของอาวุธ ก่อนปี พ.ศ. 2543 Classic Army จากฮ่องกง เข้าร่วมวงการและส่งปืนของตนลงสู่ตลาด เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทำให้เป็นคู่แข่งและเกิดการแข่งขันกับมารูอิ ไม่กี่ปีต่อมา สินค้าจากประเทศจีนถูกส่งเข้าตลาดเป็นจำนวนมาก แต่เป็นสินค้าระดับต่ำ